ในช่วงนี้ถือได้ว่า เป็นช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกหนักตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังตามมา ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของบ้านเรือนที่เชื่อได้เลยว่า เกิดขึ้นในทุกๆบ้าน ซึ่งแต่ละบ้านต้องหาวิธีแก้ปัญหา และต้องมีการป้องกันน้ำท่วมสำหรับอาคารบ้านเรือน  ซึ่งสามารถทำได้โดยให้น้ำอยู่ห่างจากโครงสร้าง

โดยทั่วไป การป้องกันน้ำท่วม คือ การใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อป้องกันอาคารบ้านเรือน และโครงสร้างอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานต่างๆจากน้ำท่วม หรือเพื่อลดความเสียหายจากน้ำท่วม ความรุนแรงของน้ำท่วมขึ้นอยู่กับจำนวนของตัวแปรต่างๆ ทั้งความลึกของน้ำระยะเวลาของการท่วม ความเร็วในการไหลของน้ำ อัตราการสูงขึ้นของระดับน้ำในแม่น้ำ ความถี่ของการเกิดน้ำท่วม และระยะเวลาการตกของฝน

การป้องกันน้ำท่วม

จุดอ่อนของอาคารขึ้นอยู่กับลักษณะของบ้านหรืออาคาร   รวมถึงความต้านทานต่อแรงดันน้ำ (แรงดันจากน้ำนิ่ง  แรงยกของน้ำและแรงดันจากการไหลของน้ำ) และการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อจมน้ำ(คุณภาพของปูน,พฤติกรรมของทรายและดินเหนียวใต้ฐานราก)  แต่อาคารสาธารณะที่ใช้สำหรับเป็นที่พักต้องยกระดับพื้นให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุด  ซึ่งสามารถทำได้โดยก่อสร้างอาคารบนพื้นที่สูงหรือถมดินให้สูงขึ้น หรือสร้างอาคารโดยยกพื้นให้สูงขึ้น  ในพื้นที่ที่น้ำไหลการกั้นกระสอบทรายก็อาจช่วยป้องกันตัวอาคารได้

การป้องกันน้ำท่วม สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน

ความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานจากน้ำท่วมอาจมีสาเหตุจากแรงดันน้ำโดยตรงจากการกัดเซาะ หรือจากทั้งสองสาเหตุรวมกัน   ความกว้างของช่องเปิดที่ไม่เพียงพอของแม่น้ำใต้สะพาน  จะทำให้ระดับน้ำเหนือน้ำสูงขึ้น   ท้องน้ำที่จุดเหนือน้ำและท้ายน้ำของสะพานจึงควรเสริมเครื่องป้องกันการกัดเซาะด้วยส่วนมากการป้องกันการกัดเซาะของท้องน้ำจะเสริมท้องน้ำด้วยอิฐ หิน หรือปลูกพืชคลุมดิน

ความเสียหายของระบบประปาคือ การที่น้ำเข้าไปในท่อ ทำให้น้ำมีตะกอนและสารพิษปนเปื้อน ปัญหานี้แก้ไขได้โดยการวางแนวท่อให้สูงกว่าระดับน้ำท่วม สำหรับระบบไฟฟ้า ระบบท่อต่างๆ และสายโทรศัพท์ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยหลักการเดียวกัน

การป้องกันน้ำท่วมสำหรับอาคารบ้านเรือน

การพิจารณาจุดอ่อนของอาคารขึ้นอยู่กับลักษณะของอาคารชนิดต่างๆ  รวมถึงความต้านทานต่อแรงดันน้ำ(แรงดันจากน้ำนิ่ง  แรงยกของน้ำและแรงดันจากการไหลของน้ำ) และการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อจมน้ำ(คุณภาพของปูน,พฤติกรรมของทรายและดินเหนียวใต้ฐานราก)

การป้องกันน้ำท่วมสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน   ความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานจากน้ำท่วมอาจมีสาเหตุจากแรงดันน้ำโดยตรงจากการกัดเซาะ  หรือจากทั้งสองสาเหตุรวมกัน  ความกว้างของช่องเปิดที่ไม่เพียงพอของแม่น้ำใต้สะพานจะทำให้ระดับน้ำเหนือน้ำสูงขึ้น ท้องน้ำที่จุดเหนือน้ำและท้ายน้ำของสะพาน จึงควรเสริมเครื่องป้องกันการกัดเซาะด้วยส่วนมากการป้องกันการกัดเซาะของท้องน้ำจะเสริมท้องน้ำด้วยอิฐ หิน หรือปลูกพืชคลุมดิน

การป้องกันน้ำท่วม

 

วิธีป้องกันบ้านและสิ่งก่อสร้างโดยมีพื้นคอนกรีต

ป้องกันน้ำท่วมได้โดยฉาบด้วยปูนหรือกำแพงอิฐที่ทาด้วยสีชนิดพิเศษ น้ำจำนวนมากที่อยู่ระหว่างฐานรากกับนอกกำแพง สามารถซึมผ่านพื้นเข้ามาภายในกำแพงได้ วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้

อุดรอยรั่วภายนอกบ้านทั้งหมด โดยใช้วัตถุกันน้ำทั่วไป  ทำความสะอาดกำแพงและรอยรั่ว รูรั่วอาจจะเกิดมาจากการก่อสร้างๆ แล้วสิ่งสกปรกอาจจะกลับเข้าไปติดในรูรั่ว

 

วิธีป้องกันกำแพงบ้านแบบชั่วคราว

โดยหาแผ่นพลาสติกกันน้ำ หรือวัตถุที่คล้ายๆ กันมาวางไว้ข้างกำแพง และปกคลุมขอบล่างของมันด้วยดิน และเอาแผ่นนี้ออกหลังจากที่น้ำหายท่วมแล้ว เพื่อป้องกันการผุพังและเชื้อราที่จะขึ้นบนไม้

การป้องกันบ้านและอาคารที่มีพื้นเป็นไม้โครงสร้าง  น้ำสามารถไหลซึมและขังนองในช่องว่างหรือใต้ถุนผ่านรอยแตกของฐานราก  รูรั่วของท่อช่องระบายอากาศและหน้าต่าง  นอกจากนั้นน้ำยังสามารถซึมผ่านระหว่างผนังบ้านและฐานรากอีกด้วย  เมื่อไหร่ก็ตามที่ช่องว่างหรือห้องใต้ถุนเต็มไปด้วยน้ำ  น้ำจะเพิ่มระดับ และไหลเข้าสู่สิ่งก่อสร้างผ่านพื้นและรอยต่อของผนังจนกระทั่งล้นและมีระดับเดียวกันกับน้ำภายนอก

การป้องกันน้ำท่วม

ขั้นตอนเบื้องต้น

  • อุดรอยแตกร้าวของฐานรากและผนัง ด้วยคอนกรีตหรือวัตถุอื่นๆ ที่สามารถใช้อุดรอยแตกได้
  • อุดรอยรั่วเล็กๆ รอบๆ ท่อด้วยคอนกรีต หรือสารประกอบที่ใช้อุดรูรั่วในเรือ กาวซิลิโคน
  • อุดช่องระบายอากาศและหน้าต่างด้วย แผงกั้นน้ำ ช่องระบายอากาศนั้นต้องสร้างให้ได้ตามมาตรฐานงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันโรคราน้ำค้างและการผุเปื่อย  ดังนั้น แผงกั้นน้ำ ทุกชิ้นต้องสามารถถอดย้ายออกได้ หลังจากอันตรายจากน้ำท่วมได้พ้นผ่านไปแล้ว
  • อุดรอยต่อระหว่างผนังกับฐานรากด้วยสารประกอบที่ใช้อุดรูรั่ว