ประตูไม้ ที่เราพบเห็นกันบ่อยขึ้นด้วยข้อดีในการใช้งานที่ยาวนาน มาพร้อมกับความสวยงามของลายประตู ประตูชนิดนี้ถือเป็นโครงสร้างนอกบ้าน ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่จะไม่มีปลวก หรือ มอดมากัดกิน คุณสมบัติสำคัญ คือ ประตูไม้ชั้นดีอย่างไม้สักจะไม่บวม หรือ โก่ง เมื่อโดนน้ำ แต่หากระยะเวลาผ่านไป อาจจะต้องมีการดูแลรักษาเพิ่มเติม ประตูไม้แม้จะอยู่ในที่ร่ม แต่ก็เผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ในระยะเวลาต่อไปหากใช้งาน ควรมีการปกป้องผิวไม้จากความชื้น และ แสงแดด ด้วยการทาสีน้ำมัน สีน้ำพลาสติก สำหรับงานไม้ โดยเฉพาะ หรือ ใช้สีย้อมไม้ ซึ่งทาแล้วซึมเข้าเนื้อไม้ จึงโปร่งแสงเห็นลายไม้โดยสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง หรือ ให้ช่างทำประตูไม้ เป็นผู้จัดการให้เพียงเตรียมพื้นผิวประตูไม้สัก ให้สะอาด และ แห้งสนิทก็ทาทับหน้าได้ทันที
แต่ขณะเดียวกันประตูไม้มักถูกใช้งานบ่อยในการเปิด – ปิด เพราะฉะนั้น จึงมีโอกาสที่จะชำรุด หรือปะทะกับความชื้นจนทำให้เนื้อไม้เกิดการบิดงอ และ ปิดไม่สนิทเป็นได้ การดูแลรักษา เบื้องต้นควรหมั่นตรวจตราความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น
ในเบื้องต้นหากพบบางส่วนของเนื้อไม้บวมจนปิดไม่สนิท ให้ใช้วิธีเลื่อยเอาส่วนนั้นทิ้งไปจนพอดีกับกรอบหน้าต่าง หรือ กรอบประตู การป้องกันแสงแดดสำหรับจุดนี้ คือ การใช้น้ำมัน หรือ สีย้อมไม้ ทาทับลงไป โดยมันจะซึมเข้าสู่เนื้อด้านใน และ ไม่ทำลายลวดลายไม้ตามธรรมชาติ ยังช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายจนเนื้อไม้เสียหาย และ กั้นการแตกร้าวก่อนเวลา
พูดได้เลยว่า การซ่อมแซม หรือ ตกแต่งบ้านด้วยตนเองนั้นท่านสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย เพียงท่านต้องมีความรู้ด้านช่างในเบื้องต้น และ มีความรู้เกี่ยวกับพื้นผิวของวัสดุนิดหน่อย
การทาสีประตูด้วยตนเองจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่ว่าเนื้อไม้นั้นเป็นอย่างไร เพราะ หากใช้สีน้ำมันหรือสีพลาสติกไปทาทับ อาจเสียจนลวดลายไม้งามๆ ถูกลบ โดยหากตกแต่งเพิ่มเติมก็ใช้สีย้อมไม้ทาทับ ควรทาสีหลาย ๆ ชั้น เมื่อเสร็จชั้นหนึ่ง แล้วขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด ทำสลับไปมาจนเป็นที่พอใจ แล้วค่อยลงแลกเกอร์ หรือ โพลียูรีเททับอีกครั้ง เป็นอันสมบรูณ์
หากเกิดรอยคราบเป็นวงที่ ประตูไม้สัก ให้ใช้ผ้า หรือ สำลีชุบน้ำมันการบูรถูก็ได้ รวมถึงหากเกิดรอยขีดข่วนที่ ประตูไม้ ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงาถู รอยขีดก็จะหายไปคราบเปื้อนจากสี ถ้าสียังไม่แห้งแก้ไขเหมือนรอยขีดข่วน แต่ถ้าแห้งแล้วให้ใช้น้ำมันสนชโลมบริเวณคราบนั้นจนกว่าคราบสีจะอ่อนตัว และ หลุดไป จากนั้นใช้น้ำมันชักเงาถูให้สะอาด ซึ่งเจ้าของบ้านอาจจะต้องพิถีพิถันในการดูแลรักษาและหมั่นทำความสะอาดอยู่บ่อยๆด้วย
